WiFi VPN

สร้างการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัว ผ่านเน็ตเวิร์กสาธารณะหรือเน็ตเวิร์กส่วนตัวด้วย WiFi VPN ที่ดีที่สุด เข้ารหัสปริมาณการเข้าใช้งานและการสื่อสารของคุณจากจุดต่อจุด ทำให้ข้อมูลส่วนตัวของคุณเข้าถึงไม่ได้ และไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ ไว้ข้างหลัง

รับ VPN ที่ปลอดภัย รับประกันคืนเงินใน 30 วัน

ทำไม Wi-Fi สาธารณะถึงไม่ปลอดภัย?

  • ร้านกาแฟ ร้านอาหาร สนามบิน และสถานที่สาธารณะอื่น ๆ ใกล้ ๆ คุณนั้น ไม่มีวายฟายที่ปลอดภัยติดตั้งไว้ ซึ่งต้องใช้ในการปกป้องคุณต่อสิ่งต่าง ๆ ออนไลน์ที่เป็นอันตราย
  • ฮอตสปอตวายฟายสาธารณะล้วนแต่เกลื่อนกลาดไปด้วยแฮกเกอร์ อาชญากรไซเบอร์ และบุคคลที่ประสงค์ร้ายต่าง ๆ ที่มักจะพยายามอยู่อย่างต่อเนื่อง ที่จะเข้าถึงข้อมูลของคุณให้ได้
  • ส่วนใหญ่แล้ว เน็ตเวิร์กวายฟายสาธารณะจะไม่ใส่รหัสผ่านไว้ ซึ่งจะเปิดช่องให้กับผู้บุกรุกที่จะเข้ามา แล้วเอาข้อมูลกิจกรรมออนไลน์ของคุณไปได้
  • เป็นเรื่องง่ายสำหรับผู้สอดแนมที่จะดักฟังกิจกรรมออนไลน์ของคุณ แล้วติดตั้งซอฟต์แวร์ประเภทสปายแวร์ไว้ ซึ่งจะคอยรายงานกิจกรรมออนไลน์แต่ละอย่างและทุก ๆ อย่างของคุณให้เขาได้รู้
  • คุณมีแนวโน้มที่จะตกเป็นเหยื่อของการโจรกรรมข้อมูลระบุตัวตน ซึ่งสามารถจะทำให้คุณต้องเสียเงินจำนวนมาก และไม่คุ้มค่าเลยกับความยุ่งยากต่าง ๆ ทั้งหลาย

แฮกเกอร์สามารถดักฟังบนเน็ตเวิร์กวายฟายใด ๆ ได้อย่างไร?

อาชญากรไซเบอร์สามารถใช้วิธีการที่ขึ้นชื่อหลายอย่าง เพื่อเจาะเข้าไปในเน็ตเวิร์กวายฟาย แล้วฟังการสนทนาส่วนตัวของคุณ หรือสังเกตการณ์ปริมาณการเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตของคุณได้:

WiFi Pineapple

พูดง่าย ๆ ก็คือ WiFi Pineapple เป็นอุปกรณ์ที่สามารถใช้เพื่อโจมตีเน็ตเวิร์กที่ซับซ้อนได้ มันจะสแกน SSID (Service Set Identifiers) ทั้งหมดที่เผยแพร่โดยอุปกรณ์ใกล้เคียง แล้วจากนั้นก็เผยแพร่ SSID ซ้ำ เพื่อหลอกล่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เข้าใจว่า มันเป็นจุดเชื่อมต่อวายฟายที่อุปกรณ์พวกนั้นเคยเชื่อมต่อด้วยในอดีต

เป็นเรื่องยากมากที่จะปกป้องอุปกรณ์ของคุณต่อการโจมตีเหล่านี้ เว้นแต่คุณจะใช้ VPN หรือว่าวายฟาย ซึ่งแน่นอนว่า – มันจะปกป้องการสื่อสารของคุณทั้งหมด โดยใช้การเข้ารหัสจุดต่อจุดในระดับชั้นการทหาร

การโจมตีแบบคนกลาง

หนึ่งในความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดในการใช้งานเน็ตเวิร์กวายฟายก็คือ การโจมตีแบบคนกลาง มันเป็นเหมือนการดักฟัง และเกี่ยวข้องกับนักแสดงวายร้าย ที่แอบวางตำแหน่งตัวเองในการสื่อสารระหว่างสองฝ่าย

เมื่อสามารถควบคุมการเชื่อมต่อได้แล้ว เจ้าตัวการก็จะสามารถดักข้อมูลที่อ่อนไหวของคุณได้ และใช้สิ่งที่พบให้เป็นประโยชน์ของตัวเอง เข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย อย่างเช่น การโจรกรรมข้อมูลระบุตัวตน และการฉ้อฉลทางการเงิน

การโจมตีแบบฝาแฝดที่ชั่วร้าย

เมื่อคุณเชื่อมต่ออุปกรณ์ของคุณ กับวายฟายที่ไม่ปลอดภัยที่ร้านอาหารหรือร้านกาแฟ ตรวจดูให้แน่ใจว่า คุณทราบชื่อที่ถูกต้อง คุณจะต้องหลีกหนีให้ห่างจากฮอตสปอตวายฟายเกเร ที่ติดตั้งขึ้นมาโดยแฮกเกอร์.

เน็ตเวิร์กเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อเลียนแบบฮอตสปอตที่ถูกต้อง ที่จัดเตรียมให้โดยธุรกิจใกล้เคียง และเมื่อมีคนเชื่อมต่อด้วยแล้ว เจ้าตัวร้ายก็จะสามารถขโมยข้อมูลที่อ่อนไหวไปได้ และแม้แต่เปลี่ยนเส้นทางไปยังเว็บไซต์ที่ติดไวรัสได้

คุกกี้ “Side Jacking””

คุกกี้เว็บบางประเภทไม่เป็นอันตรายอะไรเลย และเพียงแค่ให้เว็บไซต์ดำเนินการทำงานบางอย่าง เช่น การจดจำรายละเอียดเข้าสู่ระบบของคุณไว้ หรือปรับแต่งเนื้อหาเฉพาะสำหรับคุณเพื่อให้คุณได้รับชม เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม แฮกเกอร์ที่เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีสามารถขโมยคุกกี้ของคุณไปได้ – โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณท่องไปเน็ตเวิร์กวายฟายที่ไม่ปลอดภัย – เพื่อเข้าสู่ระบบเว็บไซต์ โดยไม่ต้องทราบข้อมูลระบุตัวตนการเข้าสู่ระบบของคุณ และดูข้อมูลทุกประเภทได้!

หนอนคอมพิวเตอร์

หนอนและไวรัสเหมือน ๆ กันหลายอย่าง แต่แตกต่างกันมากอยู่ข้อหนึ่ง ในการที่ไวรัสจะแพร่ลงในอุปกรณ์ของคุณได้ จำเป็นต้องฝังตัวมันเองในโปรแกรมเสียก่อน ส่วนหนอนนั้น สามารถทำได้โดยไม่ต้องรอให้ผู้ใช้งานดาวน์โหลดไฟล์ที่เป็นอันตรายมาก่อนได้เลย

หากเน็ตเวิร์กวายฟายที่คุณเชื่อมต่ออยู่มีความปลอดภัยไม่เพียงพอ คุณกำลังทำให้ตัวเองอยู่ในความเสี่ยง ในการติดหนอนที่สามารถเจาะเข้าไปในข้อมูลส่วนตัวของคุณได้ หรือแย่ไปกว่านั้น ทำให้อุปกรณ์ของคุณใช้งานไม่ได้โดยสิ้นเชิง

เหตุใดคุณจึงต้องการ VPN สำหรับวายฟาย?

ความปลอดภัยบนเน็ตเวิร์กวายฟายสาธารณะ

VPN จะทำให้กิจกรรมออนไลน์ของคุณปลอดภัย ด้วยการเข้ารหัส AES 256 บิต

ทำงานหรือเรียนแบบทางไกล

นักเรียนและผู้ที่ทำงานแบบระยะไกล สามารถข้ามอุปสรรคทางภูมิภาคได้ทันที

เข้าถึงประเทศอื่น ๆ ได้ทันที

ได้การเข้าถึงที่ไร้ข้อจำกัดและรวดเร็วไปยังเนื้อหาจากประเทศอื่น ๆ

ทำธุรกรรมธนาคารอย่างปลอดภัย ผ่านวายฟายสาธารณะ

เข้าถึงธุรกรรมทางธนาคารออนไลน์ และทำธุรกรรมทางการเงินที่ปลอดภัย

เข้าถึงสื่อโซเชียลบนวายฟายฟรี

เข้าถึงบัญชีโซเชียลของคุณ โดยไม่ต้องมีใครมาสอดแนมกิจกรรมของคุณ

แชร์ข้อมูลที่อ่อนไหวออนไลน์

รับส่งไฟล์ข้อมูลที่อ่อนไหวอย่างปลอดภัยบนเว็บ

PureVPN ปกป้องวายฟายของคุณได้อย่างไร?

เมื่อเชื่อมต่อกับ PureVPN ข้อมูลของคุณทั้งหมดจะส่งผ่านอุโมงค์ที่เข้ารหัสไว้ ซึ่งทำให้เกือบจะเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะถอดรหัสหรือดักไว้ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ที่อยู่ IP ของคุณจะได้รับการแทนที่ด้วย IP จากเซิร์ฟเวอร์ VPN ของเรา ซึ่งจะทำให้คุณท่องเว็บในคราบของการไม่ระบุตัวตนบนเน็ตเวิร์กวายฟายใด ๆ ก็ตาม

รับ VPN ที่ปลอดภัย รับประกันคืนเงินใน 30 วัน
How does PureVPN Protect Your WiFi

วายฟาย PureVPN คุณสมบัติพิเศษเฉพาะ

วายฟายที่ปลอดภัย

ผู้ใช้งานแอนดรอยด์สามารถเชื่อมต่อกับวายฟายใด ๆ ก็ได้ ด้วยความมั่นใจและความสบายใจ

การใช้ช่องสัญญาณแยกกัน

ได้อิสระในการกระจายปริมาณการเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตของคุณตามที่คุณต้องการ ระหว่าง PureVPN และ ISP ของคุณ

ฮอตสปอต VPN

แปลงอุปกรณ์วินโดวส์ของคุณให้เป็นฮอตสปอต เพื่อทำให้ทุกอุปกรณ์ที่มาเชื่อมต่อนั้นปลอดภัย

การกำหนดค่าเราเตอร์

PureVPN เข้ากันได้กับเราเตอร์จำนวนมาก เพื่อทำให้เน็ตเวิร์กบ้านและสำนักงานของคุณปลอดภัย

Internet Kill Switch

ใช้คุณสมบัติ IKS ที่ไร้ความผิดพลาดของเรา เพื่อทำให้แน่ใจว่าข้อมูลระบุตัวตนออนไลน์ที่แท้จริงของคุณยังคงเป็นความลับอยู่

การเข้ารหัส 256 บิต

PureVPN ใช้การเข้ารหัส AES 256 บิตในระดับชั้นการทหาร เพื่อทำให้ปริมาณการเข้าใช้งานเน็ตเวิร์กวายฟายของคุณปลอดภัย

การป้องกันการรั่วไหล

ใช้บริการของเราเพื่อให้ได้รับการปกป้องเสมอต่อการรั่วไหลของ IPv6, WebRTC และ DNS ตลอดเวลา

การเรียกดูแบบไม่ระบุตัวตน

ซ่อนที่อยู่ IP ที่แท้จริงของคุณด้วย PureVPN แล้วเพลิดเพลินไปกับการท่องเว็บที่ไม่ระบุตัวตน

จะทำให้วายฟายปลอดภัยได้อย่างไร

How To Secure Your WiFi Connection

1. สมัครและดาวน์โหลด

สมัคร PureVPN จากนั้นก็ดาวน์โหลดแอปลงในอุปกรณ์ของคุณที่ต้องการ (มือถือ แท็บเล็ต หรือแล็ปท็อป)

2. เชื่อมต่อ PureVPN

เปิดแอป แล้วกด เชื่อมต่อ เพื่อสร้างการเชื่อมต่อ VPN ที่เข้ารหัส

3. ท่องเว็บด้วยความปลอดภัย

ท่องเว็บด้วยความมั่นใจ!

รับ VPN ที่ปลอดภัย รับประกันคืนเงินใน 30 วัน

WiFi VPN คำถามที่พบบ่อย

การใช้งาน VPN ผิดกฎหมายหรือไม่?

ไม่เลย

ในประเทศส่วนใหญ่ การใช้งาน VPN ล้วนถูกกฎหมาย และยังได้รับการแนะนำอีกด้วย หากคุณกำลังทำงานกับข้อมูลที่สำคัญและอ่อนไหวอยู่ บริษัทมากมายใช้ VPN เพื่อจัดเตรียมการเชื่อมต่อที่เข้ารหัส สำหรับพนักงานที่ทำงานแบบระยะไกล

ถึงกระนั้นคำถามนี้ก็ยังคงเป็นคำถามที่เกิดขึ้นค่อนข้างบ่อยครั้ง สาเหตุก็คือ ในหลายปีที่ผ่านมา แฮกเกอร์และอาชญากรไซเบอร์จำนวนมากใช้ VPN และใช้เพื่อให้ได้มาซึ่งความเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย ในวันนี้ VPN ก็ใช้งานด้วยเหตุผลเดียวกันกับที่บรรดาแฮกเกอร์เคยใช้มาในอดีต: จัดเตรียมการเชื่อมต่อที่ปลอดภัย ไม่ระบุตัวตน เข้ารหัสไว้สำหรับข้อมูลของคุณทั้งหมด

ดังที่กล่าวมานี้ หากคุณกำลังเดินทาง ก็ควรตรวจสอบดูว่า ประเทศที่คุณอยู่นั้นอนุญาตให้คุณใช้ VPN ของคุณหรือไม่: ปลอดภัยไว้ก่อนจะดีกว่า

การใช้งาน VPN นั้น คุณจะถูกแฮ็กได้หรือไม่?

VPN จะคอยคุ้มครองข้อมูลที่เดินทางระหว่างอุปกรณ์ของคุณกับเซิร์ฟเวอร์ทางไกล แต่คุณก็สามารถถูกแฮ็กได้แม้ว่าจะมีการใช้งานเช่นนั้นก็ตาม

PureVPN ใช้การเข้ารหัส AES 256 กับทุกการเชื่อมต่อ ซึ่งมีการใช้งานโดยรัฐบาล ธนาคาร และตัวแทนที่บังคังใช้กฎหมายต่าง ๆ ทั่วโลก นี่หมายความว่า ไม่มีใครจะสามารถแตะต้องรหัสผ่าน หมายเลขบัตรเครดิต อีเมล รูปถ่าย ฯลฯ ของคุณได้

แฮกเกอร์ก็ยังคงมีความสามารถในการเข้าไปยังคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์มือถือของคุณได้อยู่ดี สิ่งที่พวกเขาต้องทำก็คือ หลอกล่อให้คุณติดตั้งมัลแวร์ลงไป นั่นเป็นสาเหตุที่เราแนะนำให้ใช้โปรแกรมป้องกันไวรัสที่แข็งแกร่งร่วมกับ PureVPN

VPN ป้องกันการสอดแนมหรือไม่?

เนื่องจาก VPN ซ่อนเร้นที่อยู่โปรโตคอลอินเทอร์เน็ต (IP) ที่แท้จริงของคุณไว้ด้วย IP จากเซิร์ฟเวอร์ของตน คุณสามารถป้องกันบุคคลที่สาม อย่างเช่น ISP ของคุณและรัฐบาลจากการสอดแนมคุณได้ พวกเขาจะไม่สามารถบอกข้อมูลระบุตัวตนที่แท้จริงของคุณได้ บอกไม่ได้ว่าคุณทำอะไรออนไลน์อยู่ และบอกไม่ได้ว่าปริมาณการเข้าใช้งานของคุณมาจากที่ใด

คุณใส่ VPN ลงในสมาร์ตทีวีได้หรือไม่?

การติดตั้ง VPN ในเราเตอร์บ้านของคุณ เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะทำให้ทุกอุปกรณ์ได้รับการปกป้องด้วย VPN รวมถึงสมาร์ตทีวีของคุณด้วย อย่างไรก็ตาม หากคุณสามารถเข้าถึง Google Play Store ได้ และบริการ VPN เสนอแอปเฉพาะให้ คุณก็สามารถติดตั้งแอปได้โดยตรงลงในสมาร์ตทีวีของคุณเช่นกัน

ISP สามารถดูประวัติการท่องเว็บด้วย VPN ได้หรือไม่?

ด้วยการที่ที่อยู่ IP ของคุณซ่อนอยู่และข้อมูลได้รับการเข้ารหัสไว้ ทำให้เป็นไปไม่ได้ที่ ISP จะเห็นประวัติการท่องเว็บของคุณ แล้วเชื่อมโยงกิจกรรมเหล่านั้นกลับมายังคุณได้ พวกเขาจะรู้เพียงแค่คุณทำให้ปริมาณการเข้าใช้งานของคุณผ่านอุโมงค์ไปทาง VPN แต่พวกเขาจะไม่สามารถเห็นว่าคุณเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์อะไร ไฟล์ใดที่คุณดาวน์โหลด บริการที่คุณกำลังใช้งาน ฯลฯ